phnom pen

พนมเปญ เสน่ห์แห่งเมืองประวัติศาสตร์

พนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา หลังจากฟื้นฟูสู่ความเจริญและเติบโตด้านเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด เมืองทั้งเมืองจึงเริ่มมีสีสันของความทันสมัย แต่ก็ยังคงโดดเด่นด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ให้ได้ตามรอยไปสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่า

Words: Supattra Sooksawud
Photos: Apisit Pravatmuang

ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย แม้ทำให้พนมเปญเปียกปอนไปทั่วทุกถนน แต่กลับไปอาจบดบังความงามของพระราชวังวัดวาอารามและสถานที่อันเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่อาบไล้ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายลงได้ ทุกอย่างดูเหมือนกระจุกตัวอยู่ใจกลางเมืองอย่างจงใจ

จุดหมายแรกสำหรับการย้อนรอยสู่เสน่ห์ของเมืองนี้ ทุกคนจะต้องมุ่งไปที่พระราชวังหลวงหรือพระราชวังจตุรมุขสิริมงคล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงพนมเปญเป็นอันดับแรก โดยจากบริเวณสวนสาธารณะขนาดใหญ่ริมแม่น้ำอันเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำโขงเหนือ โขงใต้ โตนเลสาบ และโตนเลบาสัก เดินเลาะเลียบมาไม่ไกลนัก จะพบกับความอลังการของพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1866 ตามรูปแบบศิลปะเขมรแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางพระที่นั่งต่างๆ อย่างสวยงามสะกดสายตา สถานที่ภายในส่วนใหญ่ของพระราชวังเปิดให้เข้าชมได้ ยกเว้นเขตพระราชฐานอันเป็นที่ประทับของกษัตริย์กัมพูชาและเขตหวงห้ามบางเขต ซึ่งใช้สำหรับจัดพระราชพิธีสำคัญ

จากนั้นเดินต่อไปทางทิศเหนือของพระราชวังหลวง จะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกัมพูชา ออกแบบและก่อสร้างโดยใช้ศิลปะแบบผสมผสานระหว่างเขมรกับฝรั่งเศส นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตรงดงามมาก โดยภายในเป็นที่รวบรวมและจัดเก็บศิลปวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยเฉพาะเทวรูปศิลาแกะสลักขนาดใหญ่ รวมถึงโบราณวัตถุเก่าแก่อายุนับพันปีที่พบในกัมพูชา

จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา ยังสามารถเดินไปยังวัดอุณาโลมได้อีกเช่นกัน วัดแห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพนมเปญ ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบเขมร มีแนวหลังคาโค้งตกแต่งด้วยสีทองและสีแดง แม้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอันพลุกพล่าน แต่ภายในวัดบรรยากาศร่มรื่นและสงบเงียบที่สุด

ส่วนวัดอันเป็นจุดหมายสำคัญอีกแห่งของการเยือนพนมเปญ ก็คือวัดพนมซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด สร้างอยู่บนภูเขากลางเมือง อายุเกือบ 700 ปี โดยประตูทางเข้าวัดอยู่ทางทิศตะวันออกและมีทางขึ้นเป็นบันไดที่มีรูปปั้นพญานาคประดับด้านล่างและสิงโตประดับด้านบน รอบๆ วัดโอบล้อมด้วยต้นไม้โบราณอันเขียวขจี ส่วนภายในประกอบด้วยเจดีย์ใหญ่น้อยมากมาย ซึ่งเจดีย์ใหญ่สุดเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของกษัตริย์พงพยัต ผู้ทรงปกครองกัมพูชาช่วงทศวรรษ 1400

กลับจากวัดพนมนั่งรถสามล้อฝ่าสายฝนที่เริ่มเบาบางผ่านไปยังอนุสาวรีย์เอกราชกัมพูชาซึ่งตั้งอยู่กลางวงเวียนใหญ่บนแยกถนนนโรดมสีหนุ แล้วอดแวะชื่นชมความงามไม่ได้ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1958 เพื่อรำลึกถึงการประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส ลักษณะคล้ายสถูปทรงดอกบัวที่มีลวดลายดอกบัวตูมประดับด้วยหัวพญานาค

นอกจากสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างความอิ่มเอิบและมหัศจรรย์ใจแล้ว พนมเปญยังพาผู้มาเยือนย้อนรอยไปสัมผัสกับพิพิธภัณฑ์สังหารหมู่โตลเสลง อดีตแห่งความโหดร้ายและเจ็บปวดด้วย ที่นี่เดิมเคยเป็นโรงเรียน แต่ช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจได้ใช้เป็นสถานที่กักกันและทรมานนักโทษจำนวนนับหมื่นอย่างทารุณ สร้างความรู้สึกเศร้าสะเทือนใจ แต่ก็มอบบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่ชวนให้เห็นถึงคุณค่าของสันติภาพและการยุติความขัดแย้ง

เมื่อเศร้าสะเทือนใจเกินไป เมืองแห่งนี้ก็มีตลาดหลายแห่งที่สร้างความเพลิดเพลินใจให้กลับคืนมา โดยเฉพาะตลาดกลาง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีเอกลัษณ์ด้านสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น โดยลักษณะอาคารเป็นโดมสีเหลืองสไตล์อาร์ตเดโค ภายในมีเส้นทางแตกแขนงออกไปเป็น 4 ปีก แต่ละปีกเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายทั้งสำหรับช้อปปิ้งและกินดื่ม เมื่อเปิดตลาดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1937 ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลาดได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิด ทำให้ต้องมีการสร้างขึ้นใหม่จนสวยงามทันสมัยอีกครั้ง

จึงเห็นได้ว่า ไม่ว่าพนมเปญจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ความดึงดูดใจของเมืองหลวงแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ที่เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ซึ่งทาบทับอยู่ในสถานที่ต่างๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวอยู่นั่นเอง

 

Travellers’ Guide

Getting there: เดินทางสะดวกปลอดภัยกับสายการบิน THAI Smile จากกรุงเทพฯ-พนมเปญ มีเที่ยวบินทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที สำรองที่นั่งได้ที่ www.thaismileair.com

More info: จากสนามบินนานาชาติพนมเปญ สามารถนั่งแท็กซี่ รถสามล้อหรือตุ๊กตุ๊ก เข้ามาในเมืองได้อย่างง่ายดาย ค่าแท็กซี่ประมาณ 10 ดอลล่าร์ ส่วนค่าสามล้อประมาณ 7 ดอลล่าร์

phnompenh8

Historically-Rich Phnom Penh

Phnom Penh, Cambodia’s capital, is growing fast economically and socially while its historical aspect remains charming particularly the royal palace, temples and cultural heritage sites.

The elaborate Royal Palace, Phnom Penh’s most significant landmark, was built with the French assistance in 1866. The complex of Khmer-style buildings is open to the public except for the former residence of Cambodia’s King and some off-limit areas.

To the north of the Royal Palace is the National Museum of Cambodia which houses collections of art and historical objects particularly century-old sandstone statues. A short walk from the museum is Wat Ounalom, an important Buddhist temple. Though located in the capital centre, the atmosphere on the temple ground is peaceful.

Another significant temple is Wat Phnom, the oldest in Cambodia. The temple which is nearly 700 years old was built on a hill in the town centre and surrounded by big trees. There are many pagodas on the premise with the biggest one containing the ashes of King Ponhea Vat. The Independence Monument, built in 1958 after Cambodia’s independence from France, is a lotus-shaped stupa decorated with naga heads.

The Tuol Sleng Genocide Museum reflects the torture on Khmer people by the Khmer Rouge. On the brighter side, visit several markets in Phnom Penh particularly the Central Market, an art deco dome constructed in 1937. It was badly damaged during WW II and later renovated.

Fast-changing Phnom Penh is still charming and rich with historical culture and architecture. It’s definitely a destination you should not miss.

 

Travellers’ Guide:

Getting there: THAI Smile operates Bangkok-Phnom Penh flights daily. The flight takes 1 hour and 10 minutes. For reservations, contact www.thaismileair.com.

More info: From Phnom Penh International Airport, take a taxi, tricycle or tuk tuk to the city centre for around USD 7-10.

phnompenh9

历史魅力无穷之金边

柬埔寨都市之金边,经济发展迅速,缤纷多彩的现代化,丰富优美的历史文化,吸引众多游客一次又一次前来观光

金边承载着悠久的历史和丰富多彩地标性场所。金边皇宫作为体验金边的昔日魅力的第一必打卡地点。从北湄公河、南湄公河、洞里萨湖和巴萨河交汇点旁边的公园步行不远,就会遇到1866年由法国协力建造的高棉艺术的宏观金边皇宫,宫内除了西哈努克国王的住所、举行宫廷礼仪和仪式的场所之外,大部分都对外开放。

从皇宫往北步行就是国家博物馆,博物馆精美建筑以高棉和法国艺术结合建成,里面珍藏着价值连城的国宝,比如大型神仙雕刻和古董。随后,继续步行至金边5座神圣场所之一的乌那隆寺,寺院为金色和红色弧形屋顶装饰的高棉建筑。寺院虽坐落在市中心中,但里面的气氛依然清新静谧。

塔山寺作为金边历史上最古老的寺院,是金边的主要游玩目的地。此约700年历史的寺院坐在市中心山上,东边入口设有那迦蛇神和狮子装饰的楼梯,寺院周边被郁葱的古树笼罩着,里面拥有众多大小佛塔,最大高塔内珍藏着14世纪时在位的奔哈亚国王之骨灰。接着,我们去参观位于西哈努克大道交会十字路口的柬埔寨独立纪念碑,该纪念碑于1958年兴建,是为庆祝脱离法国殖民政权而建,建筑特征为莲花蓓蕾形宝塔,设有那迦蛇神和莲花的雕饰。

除了历史文化胜地,金边还有吐斯廉屠杀博物馆,曾被红色高棉党用作拘留和残暴屠杀上万囚犯的刑场,残酷的历史,令人深深震撼。

随后,我们到金边中央市场逛逛,该独特大型市场的黄色圆顶建筑以装饰艺术风格建成,里面拥有众多店铺供游客尽情购物及吃喝。金边中央市场于1937年首次开场,它是亚洲最大市场,在第二世界大战期间,因受到损坏,市场被重建。

可见,金边再怎么发展变化,各个景点承载着的艳丽历史之魅,才真正作为此都市的优美吸引力。

 

旅游指南

交通 泰国微笑航空提供每天航班从曼谷至金边,飞行约1小时10分,预定机票请至www.thaismileair.com

详情:金边国际机场可乘的士和三轮车进城,的士费约10美金,三轮车费约7美金。